16 กรกฎาคม 2553

ประโยชน์ของชาเขียว

ประโยชน์ของชาเขียว


-สดชื่น...แจ่มใส !!! สดชื่นยังไงหน่ะเหรอจ๊ะ เอาตั้งแต่เริ่มแรกกันเลยนะ ชาช่วยทำให้สิ่งแวดล้อมรอบตัวเราสดชื่นสะอาดปลอดโปร่งและน่าอยู่ขึ้น มีงานวิจัยชิ้นใหม่ชี้ว่า ถุงชา (tea bag) ช่วยบำบัดโรค "sick-house syndrome" หรือ "มลภาวะภายในอาคารเป็นพิษ" (Indoor Air Pollution) ซึ่งเป็นอาการป่วยที่มีสาเหตุมาจากการแพ้อากาศภายในอาคารและบ้านที่พักอาศัย เช่น สารเคมีจากสีทาบ้านหรือจากเฟอร์นิเจอร์ต่า ๆ ภายในบ้านเนื่องจากสารฟอร์มัลดีไฮด์ (formal-dehyde) ที่ผสมอยู่ในสารเคมีเพื่อการตกแต่งบ้าน มักจะส่งกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ อาจเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายเกิดอาการแพ้และมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ จากการทดลองพบว่าใบชาดำหรือชาเขียว ทั้งที่ยังใหม่และที่ใช้แล้ว (ผ่านการชงแล้ว) จะดูดสารนี้ไว้แล้วไม่ปลดปล่อยสารกลับเข้าสู่บรรยากาศหลังจากดูดไว้แล้ว และถ้าทิ้งใบชาไว้ในที่อับหรือปิด เช่น ในตู้เก็บถ้วยชาม ใบชาจะช่วยลดปริมาณของสารฟอร์มัลดีไฮด์ที่มีอยู่ในอากาศอีกด้วย
-กำจัดเนื้อร้าย ในชาเขียวมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ ที่จำเป็นต่อการเติบโตหรือการลุกลามของเซลล์มะเร็ง และสามารถทำลายหรือฆ่าเซลล์มะเร็งได้โดยไม่มีผลกระทบกับเซลล์ดีอื่น ๆ ยังมีผลการวิจัยอื่น ๆ อีกพบว่า ชาเขียวอาจจะเป็นอาวุธที่ใช้กำจัดบรรดาเนื้อร้ายต่าง ๆ ให้ราบคาบลงได้ ไม่ว่าจะเป็น โรคมะเร็งเต้านม มะเร็งในกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งในหลอดอาหารและมะเร็งในตับ เป็นต้น มีผลการศึกษาชิ้นหนึ่งชี้ชัดว่า ญี่ปุ่นซึ่งมีอัตราของผู้สูบบุหรี่สูงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง แต่กลับมีอัตราของผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดต่ำสุด เมื่อเปรียบเทียบกับบรรดาประเทศที่พัฒนาอื่น ๆ ทั้งนี้เนื่องมาจากชาวญี่ปุ่นบริโภคชา พร้อมกับอาหารเป็นประจำทุกมื้อมาช้านานแล้ว เ
-รื่องของหัวใจ??? มีการศึกษาว่า การดื่มชาเขียวช่วยลดอัตราการเสี่ยงจากการเป็นโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง (stroke) จากผลการวิจัยอื่น ๆ ยังพบอีกว่า ชาเขียวมีสรรพคุณเทียบเท่ายาแอสไพริน ในการช่วยยับยั้งการแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจวายและหลอดเลือดสมอง นอกจากนั้นแล้วยังมีการวิจัยพบว่าสตรีชาวญี่ปุ่นอายุ 40 ปีขึ้นไปที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่สูบบุหรี่ แต่บริโภคชาเขียวเป็นประจำประมาณห้าถ้วยต่อวัน มีอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมองลดลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์
-น้ำพุแห่งวัยหนุ่มสาว มีการพิสูจน์แล้วว่าสารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียว สามารถช่วยชะลอความชราและคงความเยาว์วัยได้ ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียวไม่เพียงแต่จะมีประสิทธิภาพสูงมากกว่าวิตามินซีถึง 100 เท่า แต่ยังมีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินอีอีกถึง 25 เท่าในการทำลายอนุมูลอิสระ (สาว ๆ ตาโตกันเชียว)
-ต้านโรคไขข้ออักเสบ กล่าวกันว่าชาเขียวช่วยป้องกันโรคข้ออักเสบรูห์มาติก (rheumatoid arthritis) ที่มักจะเกิดกับสตรีวัยกลางคน อาการของโรคโดยทั่วไปคือมีอาการของการอักเสบบวมแดง ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและข้อต่อ
-ลดระดับคอเลสเทอรอล สารแคเทชินในชาเขียว ช่วยทำลายคอเลสเทอรอล และกำจัดปริมาณของคอเรสเทอรอลในลำไส้ แค่นั้นยังไม่พอ ชาเขียวยังช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่พอดีอีกด้วย
-ควบคุมน้ำหนัก ถ้าคุณกำลังพยายามลดน้ำหนักอยู่ การจิบชาเขียวสามารถช่วยได้ดีทีเดียว จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์พบว่า ชาเขียวช่วยเร่งให้ร่างกายมีการเผาผลาญอาหารและไขมันมากขึ้น
-ต่อสู้กลิ่นปากและแบคทีเรีย ป้องกันฟันผุ การดื่มชาเขียวนอกจากจะทำให้ร่างกายอบอุ่นแล้ว ยังช่วยทำให้ลมหายใจสดชื่นและป้องกันการติดเชื้อได้ด้วย อันที่จริงแล้วพบว่าชาเขียวเป็นตัวช่วยยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก ต่อสู้กับเชื้อไวรัสในปากโดยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย ผลการทดลองชี้ว่ายาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปากอย่างเดียวนั้น ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการต่อสู้กับเชื้อไวรัส ผลการศึกษาสรุปว่า สารพอลิฟีนอลส์ในชาเขียวช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียถึง 30% และลดการผลิตของสารประกอบที่เป็นสาเหตุทำให้ลมหายใจเหม็นบูด นอกจากนี้ชาเขียวมีสรรพคุณช่วยป้องกันฟันผุ โดยช่วยยับยั้งแบคทีเรียที่ชื่อ Streptococcus mutans ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดหินปูนที่มาเกาะฟัน คนส่วนใหญ่จะดื่มชาเขียวหลังอาหาร เพื่อช่วยให้ลมหายใจและกลิ่นปากสะอาดสดชื่น
-ป้องกันเชื้อไวรัสเอชไอวี ข้อมูลในวารสารวิทยาภูมิคุ้มกันทางการแพทย์ และโรคภูมิแพ้ฉบับประจำเดือนพฤศจิกายนตีพิมพ์ไว้ว่า สารแคเทชินในชาเขียวโดยเฉพาะพระเอกตัวเก่ง EGCG มีสรรพคุณป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า ชาเขียวเข้มข้นช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเอชไอวี จับตัวกับเซลล์เม็ดเลือดขาว ชนิดที่มีความสำคัญต่อภูมิคุ้มกันในร่างกายของคนเราที่เรียกว่า "ทีเซลล์" (T cells) ซึ่งเป็นด่านแรกที่ทำให้มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีได้ ถ้ามีผลการศึกษาเพิ่มเติมยืนยันผลการวิจัยดังกล่าวนี้ นักวิจัยกล่าวว่าจะนำสารในชาเขียวมาใช้ทดลองในการผลิตยาชนิดใหม่ เพื่อป้องกันการลุกลามของเชื้อเอชไอวี

-นอกจากประโยชน์และสรรพคุณมากมายจากการดื่มชาเขียวที่บอกไปแล้วนั้น ชาเขียวยังมีประโยชน์อีกมากมายอาทิ ช่วยห้ามเลือดหรือทำให้เลือดไหลช้าลง บรรเทาอาการผื่นคันและแมลงสัตว์กัดต่อย น้ำมันจากต้นชาที่ผสมในแชมพูและครีมบำรุงผิวช่วยบำรุงผิว และทำให้เส้นผมเป็นประกายเงางาม นอกจากนี้นักวิจัยยังกำลังศึกษาเพิ่มเติมว่าชาเขียวอาจจะช่วยป้องกันผิว จากอันตรายของแสงแดดได้

ไม่มีความคิดเห็น: